มาตรฐานคุณภาพสำหรับเหล็กกล่อง สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อเหล็กกล่อง

เหล็กกล่อง (Steel Tube) เป็นวัสดุเหล็กรูปพรรณชนิดหนึ่งที่มีโครงสร้างภายในโปร่งกลวงและมีลักษณะหน้าตัดเป็นรูปทรงเรขาคณิต โดยผ่านกระบวนการรีดร้อนและดัดแปลงให้ได้รูปทรงตามต้องการ เหล็กกล่องเป็นที่นิยมใช้ในงานก่อสร้างหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเสา คาน โครงหลังคา และงานตกแต่ง เนื่องจากมีคุณสมบัติที่แข็งแรง น้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก และสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย แต่การที่งานโครงสร้างจะมีความแข็งแรงได้ เหล็กกล่องที่ใช้ต้องมีคุณภาพได้มาตรฐานด้วย

Table of Contents
- เหล็กกล่องที่ใช้ต้องมีคุณภาพได้มาตรฐานด้วย ปัจจัยดังนี้
- นอกจากนี้มาตรฐานสากลที่ใช้ในการตรวจวัดคุณภาพของเหล็กกล่อง ยังมีอะไรอีกบ้าง?
- 1.มาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials)
- 2.มาตรฐาน JIS (Japanese Industrial Standards)
- 3.มาตรฐาน ISO (International Organization for Standardization)
- วิธีการตรวจสอบคุณภาพเหล็กกล่องก่อนซื้อ
- เหล็กกล่องคุณภาพสูง รับประกันมาตรฐานในระดับสากล ต้องซื้อกับ หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ
- ติดต่อเรา
เหล็กกล่องที่ใช้ต้องมีคุณภาพได้มาตรฐานด้วย ปัจจัยดังนี้
- มาตรฐาน SS400
เหล็กกล่อง SS400 เป็นชื่อเกรดวัสดุที่กำหนดไว้ในมาตรฐานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (JIS G3101) ซึ่งหมายถึง Steel Structure 400 โดยตัวเลข 400 แสดงถึงค่าความต้านทานแรงดึงที่ 400 เมกะปาสกาล (MPa) เหล็กกล่องเกรดนี้มีความแข็งแรงและเหมาะสำหรับการใช้งานในโครงสร้างทั่วไป เช่น อาคาร สะพาน และงานอุตสาหกรรม เนื่องจากมีคุณสมบัติในการเชื่อมที่ดีและสามารถรองรับแรงได้ดี
- ความหนาของเหล็กกล่อง
เมื่อเลือกซื้อเหล็กกล่อง ควรตรวจสอบว่าความหนาของเหล็กตรงตามที่ระบุไว้ในเอกสารหรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว ความหนาต้องได้เต็มนิ้วตามที่กำหนด และน้ำหนักจริงของเหล็กกล่องจะต้องตรงตามมาตรฐาน ไม่ใช่เพียงแค่การดูความหนาเท่านั้น การมีน้ำหนักจริงที่ตรงตามข้อกำหนดจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเหล็กกล่องมีคุณภาพและความแข็งแรงตามที่ต้องการ
- ความยาวและมุมฉาก
เหล็กกล่องควรมีความยาวมาตรฐาน 6 เมตรต่อเส้น โดยไม่ขาดหรือเกิน และต้องมีมุมฉาก 90 องศา เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจสอบความยาวและมุมฉากของเหล็กกล่องก่อนตัดสินใจซื้อถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากความยาวและมุมฉากจะส่งผลต่อการติดตั้งและการใช้งานในโครงสร้างต่าง ๆ ด้วย
- ใบรับรองมาตรฐาน มอก.
การเลือกซื้อเหล็กกล่องควรตรวจสอบว่ามีใบรับรองมาตรฐาน มอก. (TIS) หรือไม่ ซึ่งเป็นการรับรองคุณภาพสินค้าจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม การมีใบรับรองนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเหล็กกล่องที่ซื้อมีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับการใช้งาน โดยเฉพาะในงานโครงการขนาดใหญ่หรือโครงการที่ต้องการมาตรฐานสูง
นอกจากนี้มาตรฐานสากลที่ใช้ในการตรวจวัดคุณภาพของเหล็กกล่อง ยังมีอะไรอีกบ้าง?
1.มาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials)
ASTM เป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในงานก่อสร้างและอุตสาหกรรมเหล็ก มาตรฐานที่นิยมใช้สำหรับเหล็กกล่อง ได้แก่
- A36: เหล็กกล่องที่ผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอนที่มีความต้านทานแรงดึงขั้นต่ำ 250 MPa เหมาะสำหรับโครงสร้างทั่วไป
- A572: เหล็กกล่องที่ผลิตจากเหล็กกล้าผสมต่ำที่มีความต้านทานแรงดึงขั้นต่ำ 345 MPa ใช้ในโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง
การตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐาน ASTM จะรวมถึงการทดสอบแรงดึง การตรวจสอบความหนา และการตรวจสอบคุณสมบัติทางเคมีของเหล็ก
2.มาตรฐาน JIS (Japanese Industrial Standards)
JIS เป็นมาตรฐานที่ใช้ในญี่ปุ่น เพื่อตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของเหล็กกล่อง โดยแบ่งเหล็กกล่องออกเป็นหลายเกรด เช่น
- SS400: เหล็กกล่องที่ผลิตจากเหล็กกล้าที่มีความต้านทานแรงดึงขั้นต่ำ 245 MPa ใช้สำหรับโครงสร้างรองและชั่วคราว
- SM400: เหล็กกล่องที่ผลิตจากเหล็กกล้าที่มีความต้านทานแรงดึงขั้นต่ำ 245 MPa ใช้สำหรับโครงสร้างหลักทั่วไป
- SM570: เหล็กกล่องที่ผลิตจากเหล็กกล้าที่มีความต้านทานแรงดึงขั้นต่ำ 460 MPa สำหรับโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง
ในการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐาน JIS จะต้องตรวจสอบค่าความต้านทานแรงดึง ความหนา และมุมฉากของเหล็ก
3.มาตรฐาน ISO (International Organization for Standardization)
ISO เป็นมาตรฐานสากลที่ใช้ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป มาตรฐานที่นิยมใช้สำหรับเหล็กกล่อง ได้แก่
- Fe-450: เหล็กกล่องที่ผลิตจากเหล็กกล้าที่มีค่าความต้านทานแรงดึงขั้นต่ำ 275 MPa
- Fe-510: เหล็กกล่องที่ผลิตจากเหล็กกล้าที่มีค่าความต้านทานแรงดึงขั้นต่ำ 350 MPa
การตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐาน ISO จะรวมถึงการทดสอบทางเคมีและทางฟิสิกส์เพื่อยืนยันคุณสมบัติของวัสดุ
- มาตรฐาน TIS (Thai Industrial Standards)
TIS เป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งกำหนดคุณภาพของเหล็กกล่องในประเทศไทย เช่น
- มอก. 107: มาตรฐานเหล็กกลวงที่ใช้สำหรับงานก่อสร้าง มีสองชั้นคุณภาพคือ HS41 และ HS50
- มอก. 116: มาตรฐานเหล็กรูปพรรณ มีสองชั้นคุณภาพคือ Fe24 และ Fe30
ในการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐาน TIS จะต้องมีใบรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ตรงตามข้อกำหนด

วิธีการตรวจสอบคุณภาพเหล็กกล่องก่อนซื้อ
- ตรวจสอบใบรับรองมาตรฐาน: ควรขอดูใบรับรองจากผู้ผลิตเพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์นั้นตรงตามมาตรฐาน ASTM JIS ISO หรือ TIS
- ตรวจสอบขนาดและน้ำหนัก: ตรวจสอบขนาด ความหนา และน้ำหนักจริงของเหล็กกล่องให้ตรงตามข้อกำหนด
- ทำการทดสอบทางฟิสิกส์: หากเป็นไปได้ ควรทำการทดสอบทางฟิสิกส์ เช่น การทดสอบแรงดึง เพื่อยืนยันคุณสมบัติของเหล็กกล่องด้วย
- ตรวจสอบสภาพผิว: ตรวจดูว่าผิวของเหล็กกล่องไม่มีสนิม รอยแตก หรือข้อบกพร่องอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อความแข็งแรง
การเข้าใจมาตรฐานคุณภาพและวิธีการตรวจสอบเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อเหล็กกล่องที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างมั่นใจ
เหล็กกล่องคุณภาพสูง รับประกันมาตรฐานในระดับสากล ต้องซื้อกับ หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ
ร้านขายเหล็ก หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ เป็นผู้จัดจำหน่ายเหล็กกล่องคุณภาพสูงที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย รับประกันมาตรฐานในระดับสากล โดยมีประสบการณ์ในวงการเหล็กมากกว่า 30 ปี ลูกค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพและความเชื่อถือได้ของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย เหล็กกล่องที่ร้านมีการผลิตตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐาน ASTM มาตรฐาน JIS และมาตรฐาน ISO ซึ่งเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมทั่วโลก ลูกค้าท่านใดที่กำลังมองหาเหล็กกล่องอยู่ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-287-4097 หรือผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท
ติดต่อเรา
- Facebook : หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ
- โทร/แฟกซ์
- 02-287-4097
- 090-456-1183 (มือถือ)
- Email : phornnaronglohakit@hotmail.com
- LINE ID : PNRLOHAKIT
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/1ZaZpTCZGdeLgqwVA