เหล็กในปัจจุบันมีความยาว 6 เมตร เป็นมาตรฐาน และยาวมากขึ้นคือเหล็กเส้น 10 เมตร 12 เมตร ที่บางหน้างานต้องการใช้เป็น “เส้นตรง” เท่านั้น รถทั่วไปไม่สามารถบรรทุกได้อย่างมั่นคง เสี่ยงอันตรายระหว่างขนส่ง จึงต้องใช้รถสำหรับขนส่งเหล็กโดยเฉพาะ มีคานเหล็กที่ทำขึ้นให้เหมาะสมกับความยาวและรองรับน้ำหนัก ต้องมัดอย่างแน่นหนาโดยผู้ชำนาญที่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และคำนึงถึงปลอดภัยบนต่อเพื่อนร่วมทางเป็นสำคัญ
ในวันนี้ “พรณรงค์ โลหะกิจ” จะพาไปชมรถขนส่งแบบต่างๆ ที่ร้านเราใช้ส่งเหล็กให้ถึงมือลูกค้า โดยจะพูดในส่วนของขนาดรถ ข้อจำกัดของรถแต่ละประเภทเพื่อเป็นข้อมูลกับลูกค้าเลือกใช้งานรถให้เหมาะสมกับหน้างาน
หัวข้อ
ประเภทรถต่างๆ ที่ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับหน้างาน
1. รถกระบะ
- น้ำหนักบรรทุก : 1.5 ตัน
- ข้อดีและการใช้งาน : เหมาะสำหรับบรรทุกเหล็กรูปพรรณยาวไม่เกิน 6 เมตร / เหล็กเส้นแบบพับ ซึ่งเป็นวิธีขนส่งเหล็กที่นิยมที่สุด คล่องตัวกว่ารถคันใหญ่ สามารถขนส่งได้ตลอดเวลาไม่ติดข้อจำกัดเรื่องเวลา
- ข้อจำกัด : ติดตั้งเฮี๊ยบไม่ได้ ลงของด้วยแรงคนเท่านั้น ติดหล่มได้ง่ายกว่ารถใหญ่ กรณีหน้างานเป็นพื้นนิ่ม ทราย ฯลฯ
เนื่องจากเหล็กยาวเกินตัวรถจะต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด (ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ ปี 2522) คือ บรรทุกของไม่เกินความกว้างขอตัวรถ ด้านหน้ายื่นได้ไม่เกินฝากระโปรงหน้ารถ และด้านหลังเลยตัวรถได้ไม่เกิน 2.5 เมตร พร้อมติดธงแดงไว้ที่ปลายของที่บรรทุก
2. รถหกล้อ
- น้ำหนักบรรทุก : 3-7 ตัน
- ขนาด : สูง 2.30 เมตร x กว้าง 2.30 เมตร x ยาว 5.30 เมตร (และ ยาว 6.3 เมตร / ยาว 7.2 เมตร)
- ข้อดี และการใช้งาน : เหมาะสำหรับงานบรรทุกเหล็กรูปพรรณที่มีน้ำหนักบรรทุก 3-7 ตัน สามารถบรรทุกเหล็กเส้นตรงได้เฉพาะความยาว 10 ม. (ต้องเป็นรถที่มีคานรองรับ) ประมาณ 3 ตัน
- ข้อจำกัด : ในเขต กทม. ห้ามวิ่งในช่วงเวลา 06.00 – 09.00 น. และเวลา 16.00 – 20.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ
3. รถสิบล้อ
- น้ำหนักบรรทุก : 13-15 ตัน
- ขนาด : สูง 2.30 เมตร x กว้าง 2.30 เมตร x ความยาว 7.30 เมตร
- ข้อดีและการใช้งาน : เหมาะสำหรับงานบรรทุกเหล็กรูปพรรณ สามารถบรรทุกเหล็กเส้นตรงได้สะดวกกว่ารถเทรเลอร์ (ต้องใช้รถเสริมคานเสริมแข็ง) เหล็กยาว 10 เมตร บรรทุกได้ 13 ตัน / ยาว 12 ม. บรรทุกได้ 11 ตัน และสามารถติดตั้งเฮี๊ยบเพื่ออำนวยความสะดวกตอนลงเหล็ก
- ข้อจำกัด : ในเขต กทม. ห้ามวิ่งในเวลา 06.00-10.00 น. และ เวลา 15.00-21.00 น.
4.รถเทรเลอร์
- น้ำหนักบรรทุก : 14-28 ตัน
- ขนาด : สูง 2.5 เมตร x กว้าง 2.5 เมตร x ยาว 12 เมตร (และยาวพิเศษได้ถึง 20 เมตร)
- ข้อดีและการใช้งาน : เหมาะสำหรับสินค้าที่มีความยาว และน้ำหนักรวมเกิน 15 ตัน ซึ่งรถสิบล้อบรรทุกไม่ได้
- ข้อจำกัด : มีข้อจำกัดจากขนาดที่ยาว ก่อนจะเข้าพื้นที่หน้างานโดยเฉพาะหน้างานในเมือง ต้องเช็คขนาดทางเข้าการจราจรโดยรอบและในเขต กทม. ห้ามวิ่งในเวลา 06.00-10.00 น. และเวลา 15.00-21.00 น. เช่นเดียวกับรถสิบล้อ
การเลือกใช้รถขนส่งเหล็กให้เหมาะสมกับหน้างาน
การเลือกใช้รถขนส่งเหล็กให้เหมาะสมกับหน้างานขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ ขนาดและน้ำหนักของเหล็ก สภาพพื้นที่หน้างาน ความคล่องตัวที่ต้องการ และข้อจำกัดทางกฎหมาย การเลือกใช้รถกระบะ รถหกล้อ หรือรถสิบล้ออย่างเหมาะสมจะช่วยให้การขนส่งเหล็กเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และคุ้มค่ามากที่สุด
คำถามที่พบบ่อย
ควรเลือกใช้รถขนส่งเหล็กประเภทใดสำหรับการขนส่งเหล็กในพื้นที่แคบหรือซอยเล็ก?
สำหรับการขนส่งเหล็กในพื้นที่แคบหรือซอยเล็ก ควรเลือกใช้รถกระบะ เนื่องจากรถกระบะมีขนาดเล็กและมีความคล่องตัวสูง สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่รถขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ รถกระบะยังสามารถขนส่งได้ตลอดเวลาโดยไม่ติดข้อจำกัดเรื่องเวลา ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในเขตเมืองหรือพื้นที่ที่มีพื้นที่จำกัด
หากต้องการขนส่งเหล็กรูปพรรณที่มีน้ำหนักมาก ควรเลือกใช้รถขนส่งประเภทใด?
สำหรับการขนส่งเหล็กรูปพรรณที่มีน้ำหนักมาก ควรเลือกใช้รถหกล้อหรือรถสิบล้อ เนื่องจากรถหกล้อสามารถบรรทุกเหล็กรูปพรรณที่มีน้ำหนักบรรทุก 3-7 ตัน และรถสิบล้อสามารถบรรทุกได้ถึง 10-15 ตัน ทั้งสองประเภทนี้เหมาะสมสำหรับการขนส่งเหล็กที่มีน้ำหนักมากและต้องการความแข็งแรงในการรับน้ำหนัก
ควรพิจารณาอะไรบ้างในการเลือกใช้รถขนส่งเหล็กเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและความปลอดภัย?
ในการเลือกใช้รถขนส่งเหล็กเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและความปลอดภัย ควรพิจารณาดังนี้:
- ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร : ตรวจสอบข้อกำหนดเกี่ยวกับการบรรทุกและเวลาวิ่งในพื้นที่ที่ต้องการขนส่ง เช่น ในเขตกรุงเทพมหานคร ห้ามรถหกล้อและรถสิบล้อวิ่งในช่วงเวลา 06.00 – 09.00 น. และ 16.00 – 20.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ
- การจัดเรียงและยึดเหล็ก : จัดเรียงเหล็กให้เป็นระเบียบและยึดให้แน่นหนา เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของเหล็กระหว่างการขนส่ง และติดธงแดงหรือสัญญาณเตือนที่ปลายของเหล็กยาว
- ตรวจสอบสภาพรถและอุปกรณ์ : ตรวจสอบสภาพรถและอุปกรณ์ยึดเหล็กให้พร้อมใช้งาน ทั้งระบบเบรก, ยาง, ไฟส่องสว่าง, สายรัด, และโซ่ เพื่อให้การขนส่งเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การเลือกใช้รถขนส่งเหล็กให้เหมาะสมกับหน้างานจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขนส่ง ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและคุ้มค่ามากที่สุด
ติดต่อเรา
- Facebook : หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ
- โทร/แฟกซ์
- 02-287-4097
- 090-456-1183 (มือถือ)
- Email : phornnaronglohakit@hotmail.com
- LINE ID : PNRLOHAKIT
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/1ZaZpTCZGdeLgqwVA