เหล็กเส้นกลม (Round Bar Steel) เป็นวัสดุก่อสร้างที่มีความสำคัญและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้างต่างๆ ด้วยคุณสมบัติที่มีความแข็งแรง ทนทาน และความสามารถในการรับน้ำหนักได้ดี ทำให้เหล็กเส้นกลมเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับงานก่อสร้างหลายประเภท ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่างานก่อสร้างที่เหมาะสำหรับเหล็กเส้นกลม มาดูกันเลย!
หัวข้อ
คุณสมบัติของเหล็กเส้นกลม
เหล็กเส้นกลมมีคุณสมบัติที่ทำให้มันเป็นที่นิยมในวงการก่อสร้าง ได้แก่
- ความแข็งแรงสูง : เหล็กเส้นกลมมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้ดี ทำให้สามารถใช้ในงานที่ต้องการความมั่นคงและแข็งแรง
- ความทนทานต่อการกัดกร่อน : เหล็กเส้นกลมมักผ่านกระบวนการเคลือบป้องกันสนิม เช่น การชุบสังกะสี ทำให้มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสภาพอากาศและสารเคมี
- ความยืดหยุ่น : เหล็กเส้นกลมสามารถโค้งงอได้ง่าย ทำให้สามารถนำไปใช้ในงานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการออกแบบและการก่อสร้าง
- มีหลายขนาด : เหล็กเส้นกลมมีหลายขนาดให้เลือกใช้ ทำให้สามารถเลือกใช้ตามความต้องการของงานก่อสร้างได้อย่างเหมาะสม
งานก่อสร้างที่เหมาะสำหรับเหล็กเส้นกลม
เหล็กเส้นกลมเหมาะสำหรับงานก่อสร้างหลายประเภท ดังนี้
1. งานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
เหล็กเส้นกลมมักถูกใช้ในงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การทำฐานราก การก่อสร้างสะพาน และการสร้างถนน ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรงและทนทานต่อการรับน้ำหนัก ทำให้เหล็กเส้นกลมเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับโครงสร้างเหล่านี้
2. งานก่อสร้างอาคาร
ในการก่อสร้างอาคาร เหล็กเส้นกลมถูกใช้ในหลายส่วนของโครงสร้างอาคาร เช่น คาน เสา และพื้นอาคาร เนื่องจากเหล็กเส้นกลมสามารถรับน้ำหนักและแรงดึงได้ดี ทำให้อาคารมีความมั่นคงและปลอดภัย
3. งานก่อสร้างบ้านพักอาศัย
เหล็กเส้นกลมยังถูกนำมาใช้ในงานก่อสร้างบ้านพักอาศัย ตั้งแต่การทำฐานราก การก่อสร้างโครงสร้างหลังคา ไปจนถึงการทำพื้นบ้าน ด้วยความสามารถในการรับน้ำหนักและความยืดหยุ่น ทำให้เหล็กเส้นกลมเป็นวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้างบ้านพักอาศัย
4. งานก่อสร้างโครงสร้างอื่นๆ
นอกจากงานก่อสร้างอาคารและโครงสร้างพื้นฐานแล้ว เหล็กเส้นกลมยังสามารถนำไปใช้ในงานก่อสร้างโครงสร้างอื่นๆ เช่น งานก่อสร้างโรงงาน โกดังสินค้า และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทาน
เหล็กเส้นกลมแต่ละขนาดเหมาะกับงานก่อสร้างประเภทใดบ้าง?
เหล็กเส้นกลมแต่ละขนาดมีการนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
- RB6 : เหล็กเส้นกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มิลลิเมตร (2 หุน) เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่รับแรงไม่มาก เช่น เหล็กปลอกเสา และเหล็กปลอกคาน
- RB9 : เหล็กเส้นกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 9 มิลลิเมตร (3 หุน) ใช้ในงานก่อสร้างที่รับแรงไม่มาก คล้ายกับ RB6
- RB12 : เหล็กเส้นกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 มิลลิเมตร (4 หุน) เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทั่วไป ไม่เน้นงานยึดเกาะ เนื่องจากเหล็กมีลักษณะเรียบมน ทำให้ยึดเกาะปูนไม่ดีเท่าที่ควร
- RB19 : เหล็กเส้นกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 19 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับงานทำถนน
- RB25 : เหล็กเส้นกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 25 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับงานยึดโครงป้ายขนาดใหญ่ สามารถรับแรงและน้ำหนักได้ดี
มาตรฐานการใช้งานและตรวจวัดก่อนเลือกซื้อเหล็กเส้นกลม
การตรวจสอบและเลือกซื้อเหล็กเส้นกลมควรพิจารณามาตรฐานการใช้งานและการตรวจวัดดังนี้
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง : เหล็กเส้นกลมต้องได้เกณฑ์ตามมาตรฐาน มอก. หรือเรียกกันทั่วไปว่า “เหล็กเต็ม” เช่น เหล็กขนาด 9 มิลลิเมตร เมื่อวัดเส้นผ่านศูนย์กลางต้องไม่ต่ำกว่า 9 มิลลิเมตร
- น้ำหนักต่อความยาว : เมื่อชั่งน้ำหนักต้องได้ 0.499 กิโลกรัมต่อความยาว 1 เมตร โดยการวัดจะใช้เครื่องวัดที่เรียกว่าเวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper) สำหรับการชั่งน้ำหนักจะใช้เครื่องชั่งที่มีความละเอียดถึง 1 กรัม ร่วมกับเครื่องวัดที่ละเอียดถึง 1 มิลลิเมตร เช่น ตลับเมตร หรือไม้บรรทัด โดยผลการวัดต้องได้มาตรฐานทุกเส้นที่วัด
- จำนวนในมัด : จำนวนเหล็กเส้นกลมในมัดต้องครบตามที่ระบุ
- สภาพของเหล็ก : เหล็กเส้นกลมต้องไม่เป็นสนิมกินเข้าไปในเนื้อเหล็ก
ในโครงการก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ จะใช้เหล็กเส้นกลมในการเสริมคอนกรีต ดังนั้นก่อนที่จะนำเหล็กเส้นกลมไปใช้งาน ควรตรวจสอบให้ตรงตามมาตรฐาน และเลือกใช้เหล็กเส้นกลมแต่ละขนาดให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน เพื่อความปลอดภัยในงานก่อสร้างและความปลอดภัยของทุกคน
สรุป
เหล็กเส้นกลมเป็นวัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่น ทำให้เหมาะสำหรับงานก่อสร้างหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน งานก่อสร้างอาคาร งานก่อสร้างบ้านพักอาศัย หรืองานก่อสร้างโครงสร้างอื่นๆ การเลือกใช้เหล็กเส้นกลมในงานก่อสร้างจะช่วยเพิ่มความมั่นคงและปลอดภัยให้กับโครงสร้างต่างๆ ทำให้เหล็กเส้นกลมเป็นวัสดุที่ขาดไม่ได้ในวงการก่อสร้าง
ติดต่อเรา
- Facebook : หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ
- โทร/แฟกซ์
- 02-287-4097
- 090-456-1183 (มือถือ)
- Email : phornnaronglohakit@hotmail.com
- LINE ID : PNRLOHAKIT
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/1ZaZpTCZGdeLgqwVA